
มีคนไทยจำนวนมากที่ส่งพัสดุโดยใช้บริการผ่านไปรษณีย์ไทยซึ่งหลายคนก็ประสบกับปัญหาเรื่องของพัสดุที่ส่งไปเกิดชำรุดเสียหายระหว่างการจัดส่ง โดยที่ลืมคำนึงถึงเรื่องของการห่อพัสดุอย่างไรให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันโอกาสที่พัสดุจะเกิดชำรุดเสียหายระหว่างการจัดส่งซึ่งพบได้บ่อยครั้ง และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องรู้ก็คือพัสดุแต่ละประเภทที่ต้องการจะส่งนั้นควรจะห่อหรือจัดเก็บอย่างไรให้ไม่เกิดความเสียหายระหว่างเดินทาง
- การจัดส่งพัสดุประเภทรูปภาพหรือโปสเตอร์ ให้วางรูปภาพหรือโปสเตอร์บนวัสดุที่เป็นแผ่นแข็ง เช่นแผ่นไม้อัด แผ่นพลาสติก หรือแผ่นไฟเบอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งอื่นมาทับ หรือโดนพนักงานพับ แล้วเกิดการยับหรือเป็นรอยเสียหายได้
- การส่งพัสดุประเภทสิ่งพิมพ์ หรือของมีค่าต่างๆ ให้ห่อสิ่งพิมพ์ที่ต้องการจะส่งเข้าด้วยกันก่อนอาจจะเลือกวิธีใช้เชือกมัดซ้อนกันก่อน จากนั้นจึงค่อยนำสิ่งพิมพ์ที่มัดไว้บรรจุลงในกล่องใส่พัสดุ และใช้ถุงไปรษณีย์พลาสติกมาห่อกล่องเพื่อกันน้ำ และความชื้นไปในตัวด้วยอีกทีหนึ่งก็ได้ จะช่วยเก็บรักษาสิ่งของข้างในไม่ให้เสียหายได้เป็นอย่างดี แม้กระทั่งเจอกรณีสุดวิสัยกล่องโดน น้ำฝ, กล่องตกลงในน้ำ, น้ำหกใส่ ของเหลวไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามจะทำให้กล่องไม่ว่าจะแข็งแรงขนาดไหนอ่อนตัวลง ซองไปรษณีย์พลาสติก จึงเป็นตัวเลือกที่เราแนะนำอย่างยิ่ง
- การจัดส่งสิ่งของที่อยู่ในเงื่อนไขการส่งพิเศษ เช่นเหรียญกษาปณ์ พันธบัตร ทองคำ เงิน หินมีค่า เครื่องเพชรพลอย เครื่องประดับ โทรศัพท์หรือแท๊ปเล็ต และทรัพย์สินต่างๆที่มีมูลค่าสูง เป็นต้น หากต้องการจะส่งสิ่งของเหล่านี้ต้องทำการส่งรูปแบบจดหมายรับประกัน หรือพัสดุไปรษณีย์รับประกันเท่านั้นเพื่อป้องกันการสูญหายซึ่งมีการรับประกันคุ้มครองตามมูลค่าจริงของสินค้าแต่ไม่เกิน 20,000บาท ซึ่งก็ไม่ใช่ได้คืนกันง่ายๆ
ขั้นตอนต่อมาคือการห่อพัสดุที่ถูกต้อง และสามารถป้องกันพัสดุจากความเสียหายได้
- ก่อนที่จะส่งพัสดุทุกครั้งควรจะเลือกกล่องใส่พัสดุที่มีขนาดพอเหมาะกับตัวพัสดุที่ต้องการจะส่งเพื่อไม่ให้ระหว่างที่ทำการจัดส่งนั้นพัสดุที่อยู่ในกล่องคลอนไปมาซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายได้
- เมื่อได้กล่องที่ขนาดพอดีแล้วก่อนที่จะนำตัวพัสดุบรรจุลงกล่องก็ต้องนำมาห่อด้วยแผ่นพลาสติกกันกระแทกก่อนเพื่อป้องกันพัสดุเสียหาย
- หากไม่สามารถหากล่องที่มีขนาดพอดีกับตัวพัสดุได้หรือพัสดุที่ต้องการจะส่งนั้นมีขนาดเล็กเกินไปให้แก้ปัญหาโดยการ นำกระดาษหรือเศษวัสดุอย่างอื่นมายัดให้เต็มกล่องล้อมรอบพัสดุเพื่อทำให้พัสดุอยู่กับที่ไม่คลอนไปมาภายในกล่อง
- เมื่อบรรจุพัสดุลงกล่องเรียบร้อยดีแล้วให้ทำการปิดกล่องแล้วแปะด้วยเทปใสตามจุดต่างๆของกล่องให้แน่นหนา จากนั้นกรอกชื่อที่อยู่ผู้ส่งและผู้รับให้เรียบร้อยแล้วจึงนำเชือกมามัดรอบกล่องเป็นอันเสร็จ
สิ่งสำคัญในการใช้บริการส่งพัสดุกับไปรษณีย์อีกอย่างหนึ่งที่ต้องรู้ก็คือ วัตถุและสิ่งของต้องห้ามส่งไปรษณีย์ เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดเกิดความเสียหายทั้งต่อพัสดุของตนเองและผู้อื่นรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ด้วย เนื่องจากวัตถุบางอย่างอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ตัวอย่างเช่น
- วัตถุไวไฟ หากระหว่างการจัดส่งวัตถุเกิดเจออากาศที่ร้อนและมีอุณภูมิสูงเกินไปก็อาจทำให้เกิดไฟลุกไหม้และสร้างความเสียหายได้
- วัตถุระเบิด อุปกรณ์ที่สามารถระเบิดได้ ปลอกกระสุน หรือสิ่งที่คล้ายคลึง หากเกิดการกระแทกหรือสั่นสะเทือนระหว่างการจัดส่งก็อาจทำให้วัตถุเกิดการระเบิดได้
- วัตถุมีคมที่ไม่มีเครื่องหุ้มห่อป้องกัน เช่นมีดหรือเลื่อย ซึ่งระหว่างการจัดส่งอาจทำให้เกิดการทะลุออกมานอกกล่องพัสดุหรือบรรจุภัณฑ์และทำให้พนักงานได้รับบาดเจ็บ
- วัตถุที่เป็นสารเคมีหรือมีสารพิษ ซึ่งระหว่างการขนส่งอาจเกิดการรั่วไหลของสารพิษทำให้สร้างความเสียหายและเป็นอันตรายต่อพนักงานได้
- สัตว์และสิ่งมีชีวิต การขนส่งอาจทำให้สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นตายได้
- สารเสพติดทั้งหลายที่ผิดกฎหมาย
- ธนบัตร อาจเกิดการสูญหายได้
- สิ่งลามกอนาจารหรือของปลอมแปลงที่ละเมิดลิขสิทธิ์

ที่มา : www.thailandpost.com